21 พฤษภาคม 2025

ลากิจ สิทธิตามกฎหมายแรงงานที่ทั้งพนักงานและนายจ้างต้องเข้าใจ
ในชีวิตการทำงาน เราทุกคนอาจมีความจำเป็นต้องลางานเพื่อจัดการธุระส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อราชการ จัดการเรื่องบ้าน หรือภารกิจครอบครัว นี่คือเหตุผลที่ “ลากิจ” กลายเป็นสิทธิสำคัญที่ทั้งพนักงานและนายจ้างจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถูกต้อง
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “ลากิจ” มีข้อกำหนดอย่างไรตามกฎหมายแรงงาน? พนักงานมีสิทธิลากิจได้กี่วันต่อปี? และควรจัดการนโยบายการลากิจอย่างไรให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย?
บทความนี้จะช่วยให้ทั้งพนักงาน ฝ่าย HR และเจ้าของกิจการเข้าใจเรื่องการลากิจอย่างครบถ้วน ตั้งแต่หลักการพื้นฐาน ข้อกำหนดทางกฎหมาย ไปจนถึงแนวทางการจัดการนโยบายที่มีประสิทธิภาพ
ลากิจคืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐาน
“ลากิจ” หรือ “การลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็น” คือการที่พนักงานขอหยุดงานเพื่อไปทำธุระส่วนตัวที่มีความจำเป็น โดยไม่ใช่การลาป่วยหรือการลาพักผ่อน เหตุผลทั่วไปของการลากิจ ได้แก่:
- การติดต่อหน่วยงานราชการที่เปิดในเวลาทำงาน
- การดูแลญาติที่เจ็บป่วยหรือมีภารกิจครอบครัวจำเป็น
- การจัดการเรื่องที่อยู่อาศัย เช่น ซ่อมแซมบ้านกรณีฉุกเฉิน
- การตรวจสุขภาพประจำปีหรือรับบริการทางการแพทย์ที่ไม่ใช่การเจ็บป่วย
- การเข้าร่วมพิธีสำคัญทางศาสนาหรือประเพณี
ความแตกต่างระหว่างประเภทการลา
ประเภทการลา | วัตถุประสงค์ | ข้อกำหนดตามกฎหมาย | การจ่ายค่าจ้าง |
ลากิจ | ธุระส่วนตัวที่จำเป็น | ไม่มีข้อกำหนดชัดเจน | ขึ้นอยู่กับนโยบายบริษัท |
ลาป่วย | เจ็บป่วยจนทำงานไม่ได้ | ลาได้ตามป่วยจริง ไม่เกิน 30 วันทำงาน/ปี | ได้รับค่าจ้างไม่เกิน 30 วันทำงาน |
ลาพักผ่อน | พักผ่อนประจำปี | อย่างน้อย 6 วันทำงาน/ปี (ทำงานครบ 1 ปี) | ได้รับค่าจ้างตามปกติ |
สิทธิการลากิจตามกฎหมายแรงงานไทย
ที่น่าสนใจคือ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ไม่ได้กำหนดเรื่องการลากิจไว้อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่า
- กฎหมายไม่ได้บังคับจำนวนวันลากิจที่นายจ้างต้องให้
- จำนวนวันและเงื่อนไขขึ้นอยู่กับข้อบังคับการทำงานของแต่ละบริษัท
- การจ่ายค่าจ้างในวันลากิจเป็นดุลยพินิจของนายจ้าง
ถึงแม้กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้โดยตรง แต่บริษัทส่วนใหญ่มักกำหนดสิทธิการลากิจไว้ในข้อบังคับการทำงาน โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 3-10 วันทำงานต่อปี
กรณีพิเศษที่กฎหมายคุ้มครอง
แม้จะไม่มีข้อกำหนดเรื่องลากิจทั่วไป แต่มีการลาบางประเภทที่กฎหมายคุ้มครองเป็นพิเศษเช่น
- การลาเพื่อทำหมัน (มาตรา 33) – ลาตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ได้รับค่าจ้างตามปกติ
- การลาเพื่อฝึกอบรม (มาตรา 36) – ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถได้ ไม่เกิน 30 วัน หรือ 3 ครั้ง / ปี ลูกจ้างต้องมีหลักสูตรและกำหนดวันเวลาที่แน่นอนชัดเจน ลูกจ้างต้องแจ้งต่อนายจ้างไม่น้อยกว่า 7 วัน
- การลาคลอด (มาตรา 41) – ลาได้ไม่เกิน 180 วัน ได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 90 วัน
แนวปฏิบัติทั่วไปเกี่ยวกับการลากิจ
สำหรับพนักงาน
- แจ้งล่วงหน้า อย่างน้อย 1-3 วัน (ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน)
- ระบุเหตุผล ที่ชัดเจนแต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายละเอียดส่วนตัวที่ละเอียดอ่อน
- ส่งใบลาตามแบบฟอร์ม ที่บริษัทกำหนด
- มอบหมายงาน ให้เพื่อนร่วมงานหรือวางแผนจัดการงานในช่วงที่ลา
- ติดตามการอนุมัติ ก่อนหยุดงาน
สำหรับหัวหน้างานและฝ่าย HR
- พิจารณาความเหมาะสม ของเหตุผลและความเร่งด่วน
- ตรวจสอบผลกระทบ ต่องานและทีม
- ตรวจสอบประวัติการลา และวันลาคงเหลือ
- แจ้งผลการอนุมัติ โดยเร็ว
- บันทึกข้อมูล เพื่อการติดตามและตรวจสอบ
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเกี่ยวกับการลากิจ
สิ่งที่ควรทำ
- กำหนดนโยบายชัดเจน ระบุจำนวนวัน ขั้นตอนขออนุมัติ และการจ่ายค่าจ้าง
- สื่อสารนโยบาย ให้พนักงานทราบทั่วกัน
- ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ โดยเฉพาะกรณีพิเศษหรือฉุกเฉิน
- รักษาความลับ ของเหตุผลการลากิจ
- ทบทวนนโยบาย เป็นระยะเพื่อให้เหมาะสมและเป็นธรรม
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- เลือกปฏิบัติ หรืออนุมัติการลาแบบลำเอียง
- ซักถามรายละเอียดส่วนตัว มากเกินความจำเป็น
- ปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผล ที่สมเหตุสมผล
- สร้างบรรยากาศกดดัน ทำให้พนักงานรู้สึกผิดเมื่อขอลากิจ
- ลงโทษผู้ใช้สิทธิ ตามนโยบายที่กำหนด
การจัดการระบบการลากิจที่มีประสิทธิภาพ
1. จัดทำนโยบายในข้อบังคับการทำงาน
ควรระบุรายละเอียดที่สำคัญ
- จำนวนวันลากิจต่อปี
- การสะสมวันลา (ถ้ามี)
- การจ่ายค่าจ้างในวันลากิจ
- ขั้นตอนการขออนุมัติและระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า
- แนวทางสำหรับกรณีฉุกเฉิน
2. ออกแบบแบบฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ
แบบฟอร์มควรมีข้อมูลครบถ้วน
- ข้อมูลพนักงาน (ชื่อ รหัส แผนก)
- วันที่ลา (จาก-ถึง) และจำนวนวัน
- เหตุผลโดยสังเขป
- ช่องทางติดต่อระหว่างลา
- ส่วนของผู้อนุมัติและวันลาคงเหลือ
3. ใช้เทคโนโลยีในการจัดการ
ระบบเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
- ระบบ HRMS ให้พนักงานยื่นใบลาและตรวจสอบวันลาคงเหลือ
- แอปพลิเคชันมือถือเพิ่มความสะดวก
- ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีการยื่นหรืออนุมัติ
- ระบบรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลการลา
ตัวอย่างนโยบายการลากิจ
นโยบายทั่วไป
- พนักงานประจำลากิจได้ 6 วันต่อปีโดยได้รับค่าจ้าง
- พนักงานทดลองงานลาตามสัดส่วนระยะเวลาทำงาน
- แจ้งล่วงหน้า 3 วัน (ยกเว้นฉุกเฉิน)
- ต้องได้รับอนุมัติก่อนลา
- ไม่อนุญาตให้ลาติดต่อกันเกิน 3 วัน (ยกเว้นกรณีพิเศษ)
นโยบายแบบยืดหยุ่น
- ลากิจได้ 10 วันต่อปีโดยได้รับค่าจ้าง
- สะสมวันลาได้ไม่เกิน 5 วันไปปีถัดไป
- ลาล่วงหน้าแจ้ง 1 วัน ลาฉุกเฉินแจ้งทันทีที่ทำได้
- อนุญาตให้ทำงานทดแทนหรือทำงานจากบ้านแทนการลากิจ
- ลาครึ่งวันนับเป็น 0.5 วัน
ประโยชน์ของนโยบายการลากิจที่เหมาะสม
ประโยชน์ต่อองค์กร
- เพิ่มความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงาน
- ลดการขาดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
- สร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ใส่ใจพนักงาน
- วางแผนกำลังคนได้ดีขึ้น
- ลดความขัดแย้งในที่ทำงาน
ประโยชน์ต่อพนักงาน
- สมดุลชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
- ความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการใช้สิทธิ
- วางแผนการทำงานและการใช้วันลาได้ดีขึ้น
- รู้สึกได้รับการเคารพและให้เกียรติ
การลากิจที่เป็นธรรมสู่ความสมดุลและประสิทธิภาพ
การลากิจเป็นสิทธิสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดรายละเอียดชัดเจน แต่องค์กรที่มีนโยบายเหมาะสมมักประสบความสำเร็จในการดึงดูดและรักษาบุคลากรคุณภาพ
การพัฒนานโยบายการลากิจไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพและให้คุณค่ากับพนักงาน FDI Recruitment พร้อมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาระบบและนโยบายด้านทรัพยากรบุคคลที่ส่งเสริมทั้งประสิทธิภาพและความผูกพันของพนักงาน
FDI Recruitment
🔎 Line@ : @jobfdi
📞 Phone : 02 626 5999
📧 E-mail : infojob@fdi.nbdigital.in.th
🌐 www.fdirecruit.co.th