ทักษะที่ต้องมีก่อนเป็น ตำแหน่ง Manager เตรียมตัวสู่ตำแหน่งผู้บริหาร

การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Manager เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพของมืออาชีพทุกคน แต่หลายคนมักคิดว่าการมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ ความจริงคือการเป็น Manager ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยชุดทักษะที่แตกต่างจากการเป็นพนักงานปฏิบัติการ 

  จากประสบการณ์ของ FDI Recruitment ในการสรรหาและให้คำปรึกษาผู้บริหารระดับกลางมากว่า 15 ปี เราพบว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในตำแหน่งผู้บริหารมักจะเตรียมความพร้อมด้วยการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการล่วงหน้า 

  การทำความเข้าใจทักษะที่จำเป็นและเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เนื่นๆ จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ตำแหน่งผู้บริหารเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะแนะนำทักษะหลักที่ทุกคนควรพัฒนาก่อนการเป็น Manager พร้อมเทคนิคการเตรียมตัวที่เป็นประโยชน์

ทักษะอะไรที่ ตำแหน่ง Manager ต้องมี?

  ทักษะหลักของ ตำแหน่ง Manager ที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก

1.ทักษะการสื่อสาร 

2.การบริหารคน

3.การตัดสินใจ

4.การวางแผนเชิงกลยุทธ์

5.การปรับตัว 

แต่ละทักษะมีความเชื่อมโยงกันและต้องใช้ร่วมกันในสถานการณ์การทำงานจริง ตำแหน่ง Manager ที่ดีไม่ได้เป็นเพียงผู้สั่งการแต่เป็นผู้นำ โค้ช และนักแก้ปัญหาที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ

ประสบการณ์จาก FDI Recruitment ในการพัฒนาผู้บริหารระดับกลาง

  จากการให้บริการสรรหาบุคลากรของ FDI Recruitment เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของมืออาชีพหลายพันคนที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร ในปี 2023 เราได้ช่วยเหลือวิศวกรโครงการอาวุโสที่มีประสบการณ์ 8 ปี ซึ่งมีทักษะด้านเทคนิคที่ยอดเยี่ยม แต่ยังขาดทักษะการบริหารคน ท่านนี้เคย ถูกปฏิเสธจากตำแหน่ง Project Manager หลายครั้ง เพราะไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการนำทีม

  ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราแนะนำให้ท่านนี้เข้าร่วม โครงการพัฒนาทักษะผู้นำ และฝึกฝนการสื่อสารกับทีมงานผ่านโครงการเล็กๆ ภายในบริษัท หลังจากพัฒนาทักษะเป็นเวลา 6 เดือน ท่านนี้สามารถได้ตำแหน่ง Engineering Manager ที่บริษัทชั้นนำพร้อมเงินเดือนเพิ่มขึ้น 35%

  สถิติจากการติดตามผลของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เตรียมพัฒนาทักษะการบริหารจัดการก่อนสมัครตำแหน่งผู้บริหารมีอัตราความสำเร็จสูงขึ้น 70% เมื่อเทียบกับผู้ที่พึ่งแต่ทักษะเทคนิคเพียงอย่างเดียว

ทักษะหลักที่จำเป็นสำหรับการเป็น Manager

  การพัฒนาทักษะการบริหารจัดการต้องอาศัยการทำความเข้าใจหลักการสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับ มาตรฐาน ISO 9001 เรื่องการบริหารคุณภาพ และแนวทางของ สถาบันพัฒนาการบริหารจัดการแห่งประเทศไทย (NIDA) 

  การเป็น Manager ในยุคปัจจุบันต้องผสมผสานระหว่างทักษะดั้งเดิมกับความเข้าใจเทคโนโลยีและการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Work) ที่กำลังเป็นเทรนด์หลักในตลาดแรงงาน

1.ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills)

  การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรากฐานสำคัญของการเป็น ตำแหน่ง Manager ที่ดี ทักษะนี้ครอบคลุมการฟังอย่างตั้งใจ การให้ Feedback ที่สร้างสรรค์ การนำเสนออย่างชัดเจน และการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม Manager ต้องสามารถสื่อสารกับหลากหลายกลุ่มคน ตั้งแต่ทีมงานภายใต้การดูแล ผู้บริหารระดับสูง ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ

  การฝึกฝนทักษะนี้สามารถทำได้ด้วยการเข้าร่วมการนำเสนอในที่ประชุม การเป็นโฆษกของทีมในโครงการต่างๆ และการฝึกให้คำแนะนำแก่เพื่อนร่วมงานใหม่ การสื่อสารที่ดีจะช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงาน เพิ่มแรงจูงใจของทีม และสร้างความไว้วางใจซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารคน

2.การบริหารและพัฒนาคน (People Management)

  การบริหารคนเป็นหัวใจหลักของการเป็น ตำแหน่ง Manager ทักษะนี้ประกอบด้วยการสร้างแรงจูงใจ การมอบหมายงาน การให้การสนับสนุน การแก้ไขข้อขัดแย้ง และการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกทีม Manager ต้องเข้าใจว่าแต่ละคนมีจุดแข็ง แรงจูงใจ และสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน

  การพัฒนาทักษะนี้สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเป็น Mentor ให้กับเพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์น้อยกว่า การร่วมงานในโครงการข้ามแผนก และการเรียนรู้เทคนิค Coaching การเป็น Manager ที่ดีหมายถึงการช่วยให้คนในทีมเติบโตและประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การควบคุมหรือสั่งการเพียงอย่างเดียว

3.การตัดสินใจและแก้ไขปัญหา (Decision Making & Problem Solving)

  ตำแหน่ง Manager ต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทักษะการตัดสินใจที่ดีต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินความเสี่ยง การพิจารณาทางเลือก และการคาดการณ์ผลกระทบ นอกจากนี้ยังต้องสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วเมื่อสถานการณ์เร่งด่วน

  การฝึกฝนทักษะนี้สามารถทำได้ผ่านการวิเคราะห์กรณีศึกษา การเข้าร่วมในการตัดสินใจของโครงการ และการเรียนรู้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น SWOT Analysis, Root Cause Analysis Manager ที่มีทักษะการตัดสินใจที่ดีจะสามารถนำทีมผ่านพ้นความท้าทายและสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้

การวางแผนเชิงกลยุทธ์และการบริหารจัดการ

  การคิดเชิงกลยุทธ์เป็นสิ่งที่แยก Manager ออกจากพนักงานปฏิบัติการ ตามหลักการบริหารสมัยใหม่ของ Harvard Business School และแนวคิด Strategic Management Manager ต้องสามารถมองภาพรวม เชื่อมโยงงานของทีมกับเป้าหมายองค์กร และวางแผนระยะยาวที่สอดคล้องกับ ทิศทางธุรกิจ ทักษะนี้รวมถึงการบริหารงบประมาณ การจัดสรรทรัพยากร และการติดตามประเมินผล

  FDI Recruitment ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ด้วยใบอนุญาต (แบบจง.3) เลขที่ น.1261/2554 มีประสบการณ์ในการช่วยผู้บริหารระดับกลางพัฒนาทักษะเชิงกลยุทธ์ จากการติดตามผลเราพบว่าผู้บริหารที่มีทักษะการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ดีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของทีมได้ 25-40% และมีอัตราการคงอยู่ของพนักงาน (Retention Rate) ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย

1.การบริหารเวลาและการจัดลำดับความสำคัญ

  ตำแหน่ง Manager ต้องจัการงานหลายอย่างพร้อมกันและช่วยทีมงานจัดลำดับความสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะนี้ประกอบด้วยการใช้เครื่องมือการบริหารโครงการ การมอบหมายงานอย่างเหมาะสม และการติดตามความคืบหน้า การรู้จักมอบหมาย (Delegate) เป็นทักษะสำคัญที่หลาย Manager มือใหม่มักประสบปัญหา

2.การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม

  ธุรกิจในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตำแหน่ง Manager ต้องมีทักษะการปรับตัว การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ และการนำการเปลี่ยนแปลงมาใช้ในทีมงาน ทักษะนี้รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ การทดลองสิ่งใหม่ และการสื่อสารเรื่องการเปลี่ยนแปลงให้ทีมเข้าใจ

คำแนะนำปฏิบัติสำหรับการเตรียมตัวเป็น Manager

  การพัฒนาตนเองสู่ตำแหน่ง Manager ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง การเริ่มต้นเตรียมความพร้อมตั้งแต่เป็นพนักงานปฏิบัติการจะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น ทีมผู้เชี่ยวชาญของ FDI Recruitment แนะนำแนวทางการพัฒนาที่เป็นระบบและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

1.แผนการพัฒนาทักษะ Manager แบบทีละขั้น

ขั้นที่ 1: พัฒนาทักษะพื้นฐาน (เดือนที่ 1-3) 

• ฝึกทักษะการสื่อสาร: เข้าร่วม Toastmaster หรือคอร์สการพูดในที่สาธารณะ
• เรียนรู้การให้ Feedback: ฝึกให้คำแนะนำแก่เพื่อนร่วมงานอย่างสร้างสรรค์
• พัฒนาการฟัง: ฝึกการฟังอย่างตั้งใจและถามคำถามที่ดี

ขั้นที่ 2: สร้างประสบการณ์การนำทีม (เดือนที่ 4-8) 

• เป็นหัวหน้าโครงการเล็ก: สมัครใจนำโครงการข้ามแผนกหรือกิจกรรมบริษัท
• เป็น Mentor: ช่วยเหลือและให้คำแนะนำเพื่อนร่วมงานใหม่
• เรียนรู้การมอบหมายงาน: ฝึกแบ่งงานและติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นที่ 3: พัฒนาความคิดเชิงกลยุทธ์ (เดือนที่ 9-12) 

• ศึกษาธุรกิจอย่างลึกซึ้ง: เข้าใจกลยุทธ์ องค์กร และตลาดที่แข่งขัน
• เรียนรู้การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อการตัดสินใจ
• พัฒนาทักษะการเจรจาต่อรอง: เรียนรู้การเจรจากับลูกค้าและพันธมิตร

2.กิจกรรมเสริมสร้างทักษะ ตำแหน่ง Manager

• Join Professional Network: เข้าร่วม LinkedIn Groups หรือสมาคมวิชาชีพ
• อ่านหนังสือการบริหาร: ศึกษาจากผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
• ขอ Shadow Manager: สังเกตการทำงานของผู้บริหารที่เคารพนับถือ
• เข้าคอร์สออนไลน์: เรียน Leadership และ Management Skills

3.ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

• คิดว่าทักษะเทคนิคเพียงอย่างเดียวพอ – การเป็น Manager ต้องการทักษะคนมากกว่า
• รอให้ได้ตำแหน่งแล้วค่อยเรียนรู้ – เริ่มพัฒนาตั้งแต่เป็นพนักงาน
• พยายามควบคุมทุกอย่าง – เรียนรู้การมอบหมายและให้ความไว้วางใจ
• ไม่รับฟังความคิดเห็นของทีม – Manager ที่ดีต้องเปิดใจรับฟัง

ข้อดีของการพัฒนาทักษะ ตำแหน่ง Manager ล่วงหน้า

  การเตรียมความพร้อมสำหรับตำแหน่งผู้บริหารจะช่วยให้คุณโดดเด่นเหนือผู้สมัครคนอื่นและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ มืออาชีพที่พัฒนาทักษะการบริหารจัดการล่วงหน้ามักจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าและมีอัตราความสำเร็จที่สูงกว่า การมีทักษะที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อองค์กรได้ตั้งแต่วันแรก

  การใช้บริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาชีพจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงตามสาขาอาชีพและเป้าหมายของคุณ ทีมที่ปรึกษาของ FDI Recruitment มีประสบการณ์ยาวนานในการสรรหาผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง สามารถให้คำแนะนำเรื่องการพัฒนาทักษะ การสร้างเครือข่าย และการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ตำแหน่งผู้บริหาร

คำถามที่พบบ่อย

Q: ใช้เวลานานแค่ไหนในการพัฒนาทักษะเพื่อเป็น Manager?

A: การพัฒนาทักษะพื้นฐานใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน แต่การเป็น ตำแหน่ง Manager ที่มีประสิทธิภาพต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง การเริ่มพัฒนาตั้งแต่มีประสบการณ์การทำงาน 2-3 ปี จะช่วยให้พร้อมสำหรับตำแหน่งผู้บริหารเมื่อมีโอกาส

Q: ทักษะไหนสำคัญที่สุดสำหรับ Manager มือใหม่?

A: ทักษะการสื่อสารและการบริหารคนเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด เพราะ Manager ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาจากการไม่สามารถสื่อสารหรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน ทักษะเทคนิคสามารถเรียนรู้ได้ แต่ทักษะคนต้องใช้เวลาฝึกฝน

Q: จำเป็นต้องเรียนจบ MBA เพื่อเป็น Manager ไหม?

A: ไม่จำเป็น แต่การมี MBA หรือประกาศนียบัตรด้านการบริหารจัดการจะเป็นข้อได้เปรียบ ที่สำคัญกว่าคือประสบการณ์จริงในการนำทีม ผลงานที่เป็นรูปธรรม และทักษะการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริง หลายบริษัทให้ความสำคัญกับความสามารถในการปฏิบัติมากกว่าวุฒิการศึกษา

  การเตรียมตัวสู่ตำแหน่ง Manager ต้องอาศัยการพัฒนาทักษะที่หลากหลายและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทักษะหลักที่จำเป็นได้แก่ การสื่อสาร การบริหารคน การตัดสินใจ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การเริ่มพัฒนาทักษะเหล่านี้ตั้งแต่เป็นพนักงานปฏิบัติการจะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ตำแหน่งผู้บริหารเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 

  การมีแผนการพัฒนาที่ชัดเจน การ ฝึกฝนผ่านโครงการจริง และการขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับ

  หากคุณกำลังเตรียมตัวสู่ตำแหน่งผู้บริหารหรือต้องการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการเพื่อยกระดับอาชีพ FDI Recruitment พร้อมให้คำปรึกษาเส้นทางการพัฒนาอาชีพที่เฉพาะเจาะจงตามเป้าหมายของคุณ เรามีใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากกรมการจัดหางาน 

  FDI Recruitment ให้บริการปรึกษาฟรี 100% พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานในการสรรหาและพัฒนาผู้บริหารทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้มีประสบการณ์ 3-5 ปี ที่ต้องการเลื่อนตำแหน่ง หรือผู้บริหารระดับกลางที่ต้องการก้าวสู่ Executive Level เราสามารถช่วยวิเคราะห์จุดแข็ง พัฒนาจุดที่ต้องปรับปรุง และจับคู่โอกาสการทำงานที่เหมาะสมกับศักยภาพของคุณ 

  ลงทะเบียนได้ที่ https://fdi.nbdigital.in.th/ หรือติดต่อสอบถาม เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อองค์กร